ไอ-โมบายจัดทัพมือถือลงตลาด ชู
ไอ-โมบายจัดทัพมือถือลงตลาด ชู
ไอ-โมบาย ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 1.28 หมื่นล้านบาท มั่นใจยอดขายมือถือทะลุ 3.7 ล้านเครื่อง เผยทีเด็ดภาคอีสานเป็นแม่เหล็กสร้างรายได้ รับสัดส่วนรายได้ในประเทศกว่า 70% เป็นยอดขายต่างจังหวัด…
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ในช่วงต้นปี บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ประมาณ 3.5 ล้านเครื่อง แต่จากยอดจำหน่ายและการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ จึงปรับเพิ่มยอดจำหน่ายรวมทั้งปีเป็น 3.7 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นยอดจำหน่ายภายในประเทศ 3.3 ล้านเครื่อง และต่างประเทศ 700,000-800,000 เครื่อง คิดเป็นอัตราการเติบโต 5-10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขาย 3 ล้านเครื่อง
ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ มียอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศตามเป้าหมายที่ 1.7 ล้านเครื่อง โดยเน้นโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่าง 1,500-3,000 บาท ทำให้ได้การตอบรับจากผู้บริโภคระดับล่าง ส่วนตลาดต่างประเทศมียอดจำหน่ายประมาณ 300,000-400,000 เครื่อง โดยประเทศลาวเป็นประเทศที่สร้างรายได้ให้บริษัทฯ ด้วยยอดจำหน่ายเฉลี่ย 10,000 เครื่องต่อเดือน ขณะที่อินโดนีเซียและอินเดียนั้น ยอดขายไม่เติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากสินค้าที่วางจำหน่ายยังเป็นสินค้ารุ่นเดิมที่คงค้างสต็อก
นายธนานันท์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30% ถือเป็นผู้นำอันดับ 2 ในตลาดรวม จากสัดส่วนรายได้ตลาดต่างจังหวัด 70% และ กทม. 30% โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือเป็นภูมิภาคที่สร้างรายได้ให้บริษัทฯ สูงสุด ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์การทำตลาดด้วยการเปิดตัวสินค้ากว่า 20 รุ่น โดยเฉพาะฟังก์ชันการใช้งานแบบ QWERTY และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่สามารถรองรับเทคโนโลยี 3จี ในระดับราคา 3,000-5,000 บาท ส่วนยอดการใช้งานซิม 3จี ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง มียอดเปิดใช้บริการใหม่ทุกวันประมาณ 300-400 เบอร์ต่อวัน คิดเป็นจำนวนลูกค้ารวม 80,000 ราย เชื่อว่าเป็นยอดจำหน่ายสูงสุดในกลุ่มบริษัทที่ MVNO ร่วมกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมภายในปีนี้ไว้ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท
ล่าสุด บริษัทฯ เปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 รุ่น ได้แก่ i-mobile S382 และ i-mobile S383 แบบปุ่มกด QWERTY ควบคุมการใช้งานแบบสัมผัสด้วยแทรคแพค กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถใช้งานได้ 2 ซิม ดูทีวีได้ พร้อมตอบสนองการใช้งานอินเทอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ และแชทออนไลน์ โดยวางจำหน่ายในราคา 3,190 บาท และ 3,290 บาท นอกจากนี้ ยังมีสมาร์ทโฟน 3จี ระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์ รุ่น i-mobile i858 โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบไวด์สกรีนทีวี หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ถือเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี แอนดรอยด์รุ่นแรกในตลาดที่รองรับการดูฟรีทีวี ด้วยระบบออโต้ ทีวีจูนเนอร์ พร้อมการใช้งานมัลติมีเดีย กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ตอบสนองการใช้งานอินเทอร์เน็ต โชเชียลเน็ตเวิร์ค และการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันต่างๆ โดยวางจำหน่ายในราคา 11,000 บาท.
/ ที่มาของข่าว : ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 16 – 07 – 2553